ผู่หยวนมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อ OIT ได้ง่ายขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ด้านล่างนี้คือขั้นตอน คำแนะนำ และกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งรักษาระดับสต็อกให้เหมาะสม และจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างทันเวลา
ขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ:
การเลือกผู้จัดจำหน่าย: คุณควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ คุณภาพของสินค้า และราคา ควรศึกษาและขอตัวอย่างสินค้าเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
การสั่งซื้อ: ระบุรายละเอียดให้ครบถ้วน รวมถึงวันที่ต้องการให้จัดส่ง และคำแนะนำพิเศษต่าง ๆ (บรรจุภัณฑ์ การติดฉลาก ฯลฯ) ควรจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันความสับสน
การติดตามคำสั่งซื้อ: ติดตามสถานะคำสั่งซื้อตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงบรรจุภัณฑ์สุดท้าย ควบคุมระดับสต็อก สถานะการจัดส่ง รวมถึงบันทึกการชำระเงิน โดยสามารถใช้เครื่องมือเช่น โปรแกรมสเปรดชีต หรือซอฟต์แวร์จัดซื้อช่วยในการจัดการ
เคล็ดลับสำหรับกระบวนการทำงานที่ราบรื่น:
ติดต่ออยู่เสมอ: รักษาการสื่อสารกับผู้จัดหาของคุณไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และสนับสนุนการสั่งซื้ออย่างราบรื่น
ความต้องการเชิงพยากรณ์: คาดการณ์ความต้องการสินค้าคงคลังของคุณโดยอ้างอิงจากประสิทธิภาพในอดีตและแนวโน้มตลาด สิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สินค้าหมดหรือมีสินค้าคงคลังมากเกินไป
สร้างความสัมพันธ์: สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้จัดหาโดยยึดหลักความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน สิ่งนี้จะส่งผลให้บริการดีขึ้น และในที่สุดก็ลดราคาลงได้
กลยุทธ์สำหรับระดับสต็อกที่เหมาะสมที่สุด:
สินค้าคงคลังแบบทันเวลา (Just-In-Time): นำระบบสินค้าคงคลังแบบทันเวลามาใช้เพื่อลดต้นทุนการเก็บรักษาและปัญหาสินค้าล้าสมัย ด้วยวิธีนี้คุณสามารถใช้พื้นที่ในคลังสินค้าและเงินทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สต็อกสำรองความมั่นคง: รักษาระดับสินค้าคงคลังในระดับสำรองความมั่นคง เพื่อวางแผนสำหรับความแปรปรวนของความต้องการที่ไม่คาดคิด หรือเหตุการณ์ที่สร้างความหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่ขาดสินค้า และรับประกันการจัดส่งตามคำสั่งซื้อได้ทันเวลา
การรับประกันการจัดส่งตามคำสั่งซื้อทันเวลา:
กำหนดความคาดหวังอย่างชัดเจน: กำหนดระยะเวลาที่สามารถปฏิบัติได้สำหรับคำสั่งซื้อ และแจ้งให้ผู้จัดหาทราบว่าคุณต้องการรับสินค้าเมื่อใด และอย่างไร ติดตามความคืบหน้าอย่างละเอียดเพื่อให้การดำเนินการเสร็จทันเวลา
จัดส่งรวดเร็ว: การจัดส่งที่รวดเร็วสามารถทำได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งแบบเร่งด่วน เพื่อเพิ่มความเร็วในการส่งมอบสินค้าในกรณีที่ต้องการด่วน แม้ว่าอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักหรือความไม่พอใจ